วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ทำเงินอย่าง 'สมาร์ท' บน สมาร์ทโฟน

วิถีชีวิตคนยุค 3G มีโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นโลกใบใหม่ อยู่กับสมาร์ทโฟน อย่าเมินเฉยต่อพฤติกรรมที่เห็น เพราะนี่อาจจะเป็นโอกาสทำเงินที่คาดไม่


แอพพลิเคชั่นมากหน้าหลายตา ต่างทยอยลงสนามสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต เพื่อเป็นตัวเลือกให้คอไอที ได้หยิบใช้รับไลฟ์สไตล์คูลๆ ของพวกเขา ขณะที่ผู้ประกอบการ แบรนด์สินค้า ธุรกิจสื่อ สำนักพิมพ์ ตลอดจนเอเยนซีโฆษณา ต่างก็ปรับตัวกันยกใหญ่ เพื่อใช้ช่องทางเดียวกันนี้ สร้างอนาคตที่เชื่อว่า “มีอนาคต” ให้กับธุรกิจ


แต่จะมีสักกี่คนที่ประสบความสำเร็จแบบจริงๆ จังๆ กับช่องทางนี้ เรียกว่า..ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพ ที่สำคัญ “ทำเงิน” ได้ ไม่ใช่แค่ปรับตัว “เท่ๆ” เพื่อไม่ให้ตกกระแส เท่านั้น

“แอพพลิเคชั่น หลายๆ ตัวในโลกตอนนี้ “ทำเงินไม่ได้” ทั้งๆ ที่มีคนเล่นเยอะมาก อย่าง Line มีผู้เล่นถึง 17 ล้านคนทั่วโลก แต่เราไม่เคยต้องจ่ายเงินกับ Line ขณะที่แอพพลิเคชั่นบางตัว คนเบื่อก็หายไป ทำเงินได้ชั่วครั้งชั่วคราว ทั้งๆ ที่สำหรับธุรกิจการหารายได้จากสิ่งที่ทำสำคัญมาก”


นี่คือเสียงของหนึ่งในผู้เล่นตลาดโซเชียลเน็ตเวิร์ค "จิรัฐ บวรวัฒนะ" ประธานกรรมการบริษัท อิกไนท์ เอเชีย จำกัด (iGnite Asia) ผู้ประกาศตัวเป็น Social Network Agency & Interactive Content Provider เขาเลือกทำธุรกิจแบบ “บูรณาการ” ตั้งแต่ ทีวีคอมเมอร์เชียล จัดกิจกรรม ทำเว็บไซต์ นิตยสาร และปีนี้ก็ยังสนุกกับการขยายมาสู่ เกม และโมบายแอพพลิเคชั่นอย่างต่อเนื่อง 2 ปี ของการอยู่ในสนามนี้ ฉายภาพความจริงให้เห็น

“การจะพัฒนาอะไรออกมา เราต้องคิดตั้งแต่เริ่มว่ารายได้จะมาจากไหน บางคนอาจไปจมอยู่กับความคิดแค่ว่า ทำอย่างไรให้คนเข้ามาเล่นเยอะๆ ใช้เยอะๆ เพราะจะได้มีโฆษณาเข้ามา สำหรับเรานี่เป็นการคิดแบบชั้นเดียว”

คิดสั้น คิดชั้นเดียว ไม่ใช่ทางของพวกเขา... “อิกไนท์ เอเชีย” เลือกคิดหลายชั้น ตั้งแต่ต้นทางก่อนพัฒนาแอพสู่ตลาด โดยแอพพลิเคชั่นที่ออกมาต้องตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ ทำในสิ่งที่คนสนใจ และสำคัญคือ “ยังไม่มีอะไรในตลาดไปตอบสนองเขาได้” จากนั้นก็ "หาพันธมิตร" มาร่วมด้วยช่วยกันลงขัน

เขายกตัวอย่างแอพพลิเคชั่นล่าสุด ที่เตรียมเปิดตัวปลายเดือนนี้ อย่าง “Trading Tycoon” แจ้งเกิด...เซียนพันล้าน แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้ทุกคนได้สนุกกับการเล่นหุ้นโดยที่ไม่ต้องใช้เงินจริง โดยมีผู้สนับสนุนคือ หลักทรัพย์กสิกรไทย

พวกเขาไม่ได้กำลังเจาะตลาดกลุ่มคนเล่นหุ้น แต่กำลังจุดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาเรียนรู้โลกของตลาดหุ้นกันมากขึ้น ด้วยรูปแบบการเล่นที่เหมือนเกม...เล่นง่าย เข้าใจง่าย ได้ความสนุกและเรียนรู้ไปกับมัน

ตอบโจทย์แอพน่าเล่นได้ ที่สำคัญ มีคนลงเงินให้ด้วย

“นี่เป็นหนึ่งในวิธีคิด แทนที่เราจะต้องไปหาเงินจากลูกค้าที่ใช้แอพตัวนี้ ผมก็ไปหาคนที่มีความคิดเหมือนกันมาร่วมกันทำ พอมีผู้สนับสนุนแทนที่แอพอย่างนี้ในเมืองนอกผู้เล่นต้องเสียเงินซื้อ อย่างต่ำๆ ก็ 5-10 เหรียญ แต่เราก็สามารถให้คนมาเล่นฟรีๆ เลย ซึ่งอนาคตยังพัฒนาเป็นกิจกรรมสร้างรายได้เข้ามาได้อีก มีหลายๆ ตัวที่เราใช้วิธีคิดแบบเดียวกันนี้”

วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

4 ข้อต้องคิดเพื่อปรับเว็บ

ทำเงินบนโลกไอที (78) : 4 ข้อต้องคิดเพื่อปรับเว็บ

  ใครคนหนึ่งเคยบอกไว้ ว่าขณะที่คนอื่นก้าวไปข้างหน้า คนที่หยุดอยู่กับที่นั้นถือว่าเดินถอยหลังอยู่ โลกของเว็บไซต์ก็เช่นกัน เรากล้าฟันธงว่าเว็บไซต์ใดที่ไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ในขณะที่เว็บไซต์อื่นๆพากันพัฒนารุดหน้าถึงไหนต่อไหน เท่ากับเว็บไซต์กำลังถอยหลังลงคลองเช่นกัน


บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จัก 4 ข้อหลักที่องค์กรต้องใส่ใจหากคิดจะปรับปรุงเว็บไซต์ ซึ่งทั้ง 4 ข้อถือเป็นคัมภีร์ที่พาหลายองค์กรเดินแซงหน้าคู่แข่งมาแล้วนักต่อนัก

***ความสำคัญของการออกแบบเว็บไซต์ใหม่ Website Redesign เพื่อเพิ่มยอดขาย

เรื่องของการปรับปรุงเว็บไซต์นั้นถือเป็นเรื่องใหญ่และค่อนข้างละเอียดอ่อนอย่างมาก ในการเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ที่เปิดใช้งานมาระยะหนึ่งหรือไม่ว่าจะนานเท่าใดก็ตาม การเปลี่ยนแปลงหน้าตาการใช้งานมีผลกระทบหลายทางทั้งต่อเจ้าของเว็บไซต์และต่อผู้ใช้เอง หากเปรียบเว็บไซต์เสมือนต้นไม้ และ การปรับเปลี่ยนหน้าตาเว็บไซต์ใหม่เสมือนการตัดแต่งกิ่ง ซึ่งหลังจากตัดแต่งเรียบร้อยแล้ว ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอาจจะไม่เหมือนเดิมนั่นคือ ต้นไม้อาจจะไม่ออกผลให้อีกเลยหรือ หรือออกผลน้อยลง หรือ อาจจะออกผลจำนวนมากมาย มีความเป็นได้ทั้งสิ้น เรามาดูว่าการออกแบบหน้าตาเว็บไซต์ใหม่เพื่อให้ผลผลิตที่คุ้มค่าต้องทำอย่างไรบ้าง

เจ้าของกิจการที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว และต้องการปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่นั้น ส่วนมากมักมีเหตุผลในการปรับปรุงหน้าตา ภาพลักษณ์ของเว็บไซต์เป็นสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่าการปรับหน้าตาเว็บไซต์นั้นเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นทางหนึ่งแต่เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่ความสำคัญแรกที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องใส่ใจ นั่นเพราะว่าการออกแบบเว็บไซต์หรือการปรับปรุงก็ตามจำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนก่อนเป็นอันดับแรก

บริษัทชั้นนำในต่างประเทศที่สามารถสร้างรายได้จากการขายสินค้าผ่านหน้าเว็บไซต์จำนวนมาก ไม่ได้สร้างความสำเร็จจากหน้าเว็บไซต์ที่สวยงามถูกใจเพียงอย่างเดียว แต่เพราะการปรับแต่งเว็บไซต์ให้การใช้งานเอื้ออำนวยความต้องการของพฤติกรรมผู้ใช้เป็นหลัก และออกแบบหน้าเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายที่สุด ใช้งานได้ตามความต้องการ

10 แนวโน้มพลิกโฉมโลกสื่อสาร


กระแสความตื่นตัวใช้งาน 'สมาร์ทดีไวซ์' ของผู้คนทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยได้จุดประเด็นการเข้าถึง 'คอนเทนต์' บนอินเทอร์เน็ตผ่านเครือข่ายไร้สาย โดยเฉพาะเครือข่าย 3G บางคนมองข้ามช็อตเลยไปถึง 4G ซึ่งเวลานี้มีผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่างค่ายเอไอเอส เริ่มนำมาทดสอบการใช้งานในบ้านเราแล้วนั้น ทุกสิ่งอย่างล้วนโฟกัสมายังโลกการสื่อสาร โดยเฉพาะในปี 2555 นี้ มีการตั้งความหวังว่า โฉมหน้าของโลกสื่อสารจะออกมาเป็นอย่างไร


หากย้อนกลับไปดูข้อมูลในปีที่ผ่านมา พบว่ามียอดผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งโลกมากกว่า 6,000 ล้านคน มีการส่งข้อความรวมกันมากกว่า 6 ล้านล้านครั้ง ซึ่งดูเหมือนว่าเยอะมาก แต่ที่มากไปกว่านั้นคือ 'อีเมล' เพราะมีการส่งอีเมลบนมือถือมากกว่า 107 ล้านล้านฉบับ ที่น่าเหลือเชื่อยิ่งไปกว่านั้น มีการดูวิดีโอบน 'ยูทูป' มากกว่า 7.3 แสนล้านครั้ง นักวิเคราะห์ประเมินอีกว่า ในอีก 8 ปีข้างหน้าจะมีสมาร์ทดีไวซ์ที่เชื่อมต่อโลกสื่อสาร ถึงหลักล้านล้าน เครื่อง

นั่นคือภาพรวมทั้งหมด แต่ถ้ามองกลับมาในไทยจะพบว่า มีอัตราการขยายตัวการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงหรือบรอดแบนด์ประมาณ 22.8% ขณะที่สมาร์ทโฟนมีการเติบโต 55% โดยมีผู้เข้าชมยูทูปที่คนไทยอัปโหลด 10 อันดับแรกถึง 505 ล้านครั้ง และที่น่าสนใจ คือ คนไทยที่อยู่ในโลกออนไลน์ (อินเทอร์เน็ต) กว่า 75.9% ใช้งาน 'เฟซบุ๊ก' ซึ่งถือเป็นอันดับที่ 16 ของโลก

แล้วในปีนี้โลกสื่อสารจะเป็นอย่างไร อะไรที่จะเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลที่จะเข้าเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน จากข้อมูลที่ 'โจนาห์ พรานสกี้' ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดฝ่ายกลยุทธ์และการตลาดแบบเจาะลึก บริษัท แอมด็อคส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำบริการด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับจัดการประสบการณ์ลูกค้าในระบบสื่อสารที่คลุกคลีอยู่ในอุตสาหกรรมสื่อสารไร้สายมานาน 30 ปี วิเคราะห์ถึงเมกะเทรนด์ที่จะมีอิทธิพลต่อโลกสื่อสารในช่วงปีนี้ว่า มีด้วยกัน 10 เทรนด์

เริ่มจากเทรนด์แรกที่มองเห็นก็คือ ความคาดหวังของผู้ใช้บริการจะถูกตอบรับผ่านสินค้าและบริการที่บริษัทผู้ผลิตและเจ้าของคอนเทนต์ในรูปแบบของประสบการณ์ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา จะเห็นได้จากการใช้สินค้าของค่าย 'แอปเปิล' ไม่ว่าจะเป็นไอแพด ไอโฟน จะได้ประสบการณ์ใช้งานที่ง่ายผ่านผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมที่ส่งเสริมให้ชีวิตง่ายขึ้น ขณะที่ 'กูเกิล' ก็จะได้ประสบการณ์เข้าถึงข้อมูลที่หลากหลาย ถ้าเป็น 'เฟซบุ๊ก' จะได้ประสบการณ์ในเรื่องคอมมูนิตี้ ผ่านบุคคลที่เชื่อถือได้ และ 'อเมซอน' ก็จะทำให้เกิดประสบการณ์ซื้อหาของได้แทบทุกชนิดบนโลก

วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

10 สินค้าสุดฮอตนักชอปไทยนิยมซื้อ


กระแสการซื้อสินค้าออนไลน์มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจะเห็นได้ชัดว่าแฟชั่นเสื้อผ้าผู้หญิงติดอันดับแรกสินค้าขายดีที่สุดบนออนไลน์จากการสำรวจและเผยพฤติกรรมนักชอปไทยจากสนุกดอทคอม

สนุกดอทคอมจัดอันดับสินค้าขายดีที่สุดบนเว็บซื้อขายออนไลน์ Shopping.co.th ในปี 2554

อันดับ 1 ตกเป็นของสินค้ากลุ่มแฟชั่นคือ เสื้อคลุม แจ็กเกต ยีนส์แต่งลูกไม้ สไตล์อินเทรนด์เกาหลี

ขณะที่อุปกรณ์ไอที ในช่วง 1-2 ปีนี้ ต้องยกให้สุดยอดนวัตกรรมใหม่ที่มาปฏิวัติวงการไอที ด้วยอุปกรณ์ไฮเทคอย่างแท็บเลต สร้างกระแสตื่นตัวให้กับตลาดชอปปิ้งออนไลน์ได้ไม่น้อย โดยจากการจัดอันดับสินค้าไฮเทคในกลุ่มแกดเจ็ต (Gadget) ของ Shopping.co.th แท็บเลตมียอดการซื้อขายเป็นอันดับ 1 ในปี 2554 ที่ผ่านมา

รองลงมาได้แก่ กล้องดิจิตอล และโทรศัพท์มือถือสมาร์ตโฟน

สำหรับแนวโน้มปี 2555 นี้ สนุก! มองว่า เกาหลีฟีเวอร์ยังแรงไม่หยุด อิทธิพลทั้งจากศิลปินดารานักร้องนักแสดงเกาหลีที่ทำให้แฟนคลับไทยชื่นชอบ และยังแพร่อิทธิพลต่อแวดวงแฟชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน โดยเทรนด์เกาหลีจะยังคงอยู่ในกระแสของนักชอปออนไลน์ในปี 2555 อย่างต่อเนื่อง

สำหรับเทรนด์สีนั้น สีส้มมาแรงสุด และกำลังเป็นสีที่วงการแฟชั่นนิยมมากที่สุดในปี 2555 โดยโทนสีดำยังคงเป็นโทนสีมาแรง

สนุก! มองข้อดีในการชอปปิ้งออนไลน์ คือ ลดเวลาการเดินทาง สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทยยุคใหม่ เพราะสะดวกและง่ายต่อการค้นหาสินค้า สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ในราคาสมเหตุสมผลจากร้านค้าออนไลน์มากมาย ด้วยโปรโมชั่นลดราคาพิเศษจากเจ้าของร้านค้าโดยตรงเพื่อกระตุ้นการซื้อขาย ถือเป็นปัจจัยหลักของการชอปปิ้งออนไลน์ สำหรับกลุ่มเป้าหมายนักชอปออนไลน์ของ Shopping.co.th ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนอายุ 24-40 ปี ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้มีแนวโน้มการจับจ่ายซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ สนุก! ยังพบว่าการขายดีลคูปองออนไลน์ โดยเป็นการจัดโปรโมชั่นให้ส่วนลดจากเจ้าของธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร สปา โรงแรมหรือกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ผ่านสื่อออนไลน์ ปรากฏว่าในปีที่ผ่านมานักชอปนิยมซื้อคูปองออนไลน์ของสนุก! คูปอง (http://coupon.sanook.com) เพิ่มมากขึ้น

ด้านเอ็นโซโก้ บริษัทในเครือลีฟวิ่งโซเชียล มีการปรับโฉมเว็บไซต์ใหม่ (www.ensogo.com) ให้ทันสมัยและโฉบเฉี่ยวกว่าเดิม เพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์การชอปปิ้งที่สนุกสนานยิ่งกว่าที่เคย ด้วยการใช้งานที่เร็วขึ้นถึงสองเท่า ช่วยให้สมาชิกค้นพบดีลใหม่ๆ ได้ในทุกๆ วัน ด้วยฟีเจอร์การแบ่งดีลตามเขตและจังหวัด รวมถึงการแบ่งดีลตามหมวดหมู่ต่างๆ


โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์16 กุมภาพันธ์ 2555
http://bit.ly/xHh82o

Brand Modernization เซียงเพียว

เปิดยุทธศาสตร์ Brand Modernization เซียงเพียว รับเออีซี สู่ผู้นำใน 3 ปี

ต่อยอดความสำเร็จอาณาจักร “เบอร์แทรม เคมิคอล”ผู้ผลิตและจำหน่ายยาดม “เซียงเพียว" ยาหม่องน้ำ "เซียงเพียวอิ๊ว” และ ยาดม “เพพเพอร์มินท์ฟิลด์” จากยุคแรกสู่ยุคเจนเนเรชั่นที่ 2 ที่คมความคิด เปิดแผนยุทธศาสตร์เชิงรุกรอบทิศแบบBrand Modernization เน้นปรับภาพลักษณ์ใหม่ครั้งใหญ่ในรอบ 10 ปีของสินค้าให้ทันสมัย สดใหม่ เป็นที่ยอมรับให้กับคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องตอกย้ำความพร้อมสู่เวทีสากล รับเออีซี


Brand Modernization ปรับภาพลักษณ์

ภาพลักษณ์ยาดม กับกลุ่มวัยรุ่น อาจจะดูไม่เข้ากันมากนัก เมื่อเทียบกับกลุ่มคนแก่ หรือวัยชรา ซึ่งหลายต่อหลายแบรนด์ในสินค้ากลุ่มนี้ ต่างพยายามหาน่านน้ำใหม่ สร้างกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยลง เพื่อลดข้อจำกัดของสินค้า และเป็นการกระตุ้นยอดขายให้มากขึ้น ยาดมเซียงเพียว เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ กับการพลิกเกมการตลาดใหม่ ที่หันมาโฟกัสกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่น ซึ่งดูแล้วประสบความสำเร็จอย่างมาก

การโฟกัสกลยุทธ์ที่เรียกว่า Brand Modernization เพื่อปรับภาพลักษณ์ของสินค้าให้ทันสมัย สดใหม่ เป็นที่ยอมรับให้กับคนรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การใช้โฆษณาสื่อสารภาพลักษณ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์วัยรุ่น และการสร้างสรรค์กิจกรรมมันส์ๆ เพื่อเรียกความสนใจจากกลุ่มวัยรุ่น คือกุญแจความสำเร็จของ “เบอร์แทรม เคมิคอล”

ดอกบัวคู่บุกตลาดรังนก

กลยุทธ์การตลาด : ดอกบัวคู่บุกตลาดรังนก แต่ไม่ควรใช้ยี่ห้อดอกบัวคู่


โดย ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย


ดอกบัวคู่บุกตลาดรังนก แต่ไม่ควรใช้ยี่ห้อดอกบัวคู่

แวดวงการตลาดมักจะมีอะไรให้ฮือฮาเสมอ

ไม่ว่าเจ้าของแบรนด์ เจ้าของสินค้า

จะเจตนา หรือเพราะอุบัติเหตุ

ฤาเพราะกระแสผู้บริโภค .. ก็ตามแต่

อย่างความเคลื่อนไหวล่าสุด ของต้นตำรับยาสีฟันสมุนไพร อย่าง “ดอกบัวคู่”

ซึ่งได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ แหวกออกจากไลน์เดิม (อย่างยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก แชมพู หรือครีมอาบน้ำ -- ซึ่งล้วนแต่จะต้องมีคำว่า สมุนไพร พ่วงท้ายในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นเสมอ)

ครานี้ เค้าออก "รังนก”

และก็ใช้ยี่ห้อ ดอกบัวคู่ วางหราบนหน้ากล่อง และหน้าขวด

เวลาคนมอง ก็เข้าใจไปได้ไม่เกินสองแบบ

นั่นคือ รังนกดอกบัวคู่ ไม่ก็ ดอกบัวคู่รังนก

“สาเหตุที่เราใช้แบรนด์ดอกบัวคู่ เพราะเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องเสียเวลาโปรโมตมาก และดอกบัวคู่สามารถสื่อความเป็นแบรนด์เพื่อสุขภาพที่ลิงก์กับรังนกได้ เชื่อว่าผู้บริโภคจะให้การตอบรับและไม่สับสน ที่สำคัญยังผลิตภัณฑ์รังนกช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ดอกบัวคู่ให้ดูดีขึ้นอีกด้วย" ปิติ ลีเลิศพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด กล่าว

“บริษัทได้ขยายไลน์ธุรกิจด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "รังนก" ภายใต้แบรนด์ "ดอกบัวคู่" โดยทดลองตลาดตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา และจะเริ่มรุกตลาดมากขึ้นในปีนี้” เขาเล่าต่อ “ปัจจุบันมีวางจำหน่ายตามร้านค้าทั่วไปที่เป็นเทรดดิชั่นนัล โดยใช้หน่วยจัดจำหน่ายของบริษัทเป็นผู้กระจายสินค้าด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตของ เดอะมอลล์ทุกสาขา”

กลยุทธ์หลักของรังนกดอกบัวคู่ คือความคุ้มค่า คุ้มราคา

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ศึก CRM บู๊ทส์ VS วัตสัน จัดหนักผ่านบัตร ปั๊มยอดสมาชิก

2 บิ๊กแบรนด์จากร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม (Speacialty Store) เมืองไทย “บู๊ทส์ - วัตสัน” เปิดเกมการแข่งขันรอบใหม่ ประเดิมไตรมาสแรกของปีมังกร ในรูปแบบการทำซีอาร์เอ็มผ่านบัตรสมาชิก ออกแคมเปญ และอัดโปรโมชั่นเต็มแรง

ด้านแบรนด์ “ บู๊ทส์” กับกลยุทธ์ฮาร์ดเซลผ่านบัตร Advantage Card แบบจัดหนักลดราคาแจกสินค้าแบบ เร่งมือโกยยอดสมาชิกเข้าสู่ระบบบัตรสมาชิก พร้อมเร่งขยายสาขาประกบคู่แข่ง ส่วนแบรนด์ “วัตสัน” เดินหน้าอัดโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมภายใต้แนวคิด Value for Money ผ่านบัตรสมาชิกวัตสัน เม็มเบอร์ การ์ด ที่มีฐานสมาชิกกว่า 6 แสนราย

 
จุดกำเนิดสงคราม 2 คู่เดือด

ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีก่อน บู๊ทส์ และวัตสัน เข้ามาเมืองไทยในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน และวางตำแหน่งเป็น"ร้านเพื่อสุขภาพและความงาม"(Speacialty Store) โดยแบรนด์วัตสัน เข้ามาเปิดในเมืองไทยตั้งแต่ปี 2539 ก่อนบู๊ทส์เพียงปีเดียว

ผลวิจัยพฤติกรรมลูกค้ารถหรู Switch Brand ต่ำ Loyalty สูง

สำหรับแบรนด์อื่นที่ไม่ใช่บิ๊กทรีจากเยอรมนีที่ครองความยิ่งใหญ่ในตลาดรถยนต์ระดับหรู แต่คิดเข้ามากอบโกยยอดขายในตลาดนี้ หลังอ่านบทวิจัยชิ้นล่าสุดของทาง Polk and AutoTrader แล้วอาจถอดใจง่ายๆ หรือพานไม่อยากเข้าตลาดอีกเลยก็ได้
 
 
งานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุดของทาง Polk and AutoTrader มีขึ้นภายใต้หัวข้อที่เรียกว่า

2012 New Luxury Vehicle Loyalty Study

ยืนยันว่าลูกค้าของแบรนด์รถยนต์ระดับหรู หากยึดมั่นอยู่กับแบรนด์ใดแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะมีสิ่งที่เรียกว่า “ข้ามแบรนด์” เกิดขึ้น เพราะความยึดมั่น หรือ Brand Loyalty ค่อนข้างสูงกว่ารถยนต์กลุ่มอื่นๆ

ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่จะเห็นลูกค้าของบีเอ็มดับเบิลยูกระโดดข้ามมาหาเมอร์เซเดส-เบนซ์ หรือออดี้ อีกทั้งการตัดสินใจซื้อรถยนต์สักรุ่นของลูกค้าที่เป็นหน้าใหม่ในตลาดก็จะมองที่แบรนด์เป็นหลัก

“ฉะนั้น ถ้าคุณเป็นเบอร์ 1 เบอร์ 2 หรือเบอร์ 3 ในตลาด ตรงนี้ถือว่าได้เปรียบอย่างมาก” ริค เวนเชล รองประธานฝ่ายวิจัยของ Polk and AutoTrader กล่าว

แม้ไม่ใช่งานวิจัยอ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างของลูกค้าทั่วโลก แต่การดำเนินการครั้งนี้พุ่งตรงไปที่ชาวอเมริกันที่เป็นกลุ่มลูกค้าของแบรนด์รถยนต์ระดับหรู และเป็นที่ทราบกันดีว่า สหรัฐอเมริกา ถือเป็นตลาดใหญ่สำหรับแบรนด์ไฮเอนด์เหล่านี้ แม้ในช่วงหลังตลาดจีนเริ่มทำยอดตีตื้นขึ้นมาหลังมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นทุกวันก็ตาม

การตลาดอัจฉริยะทำการตลาดสมาร์ตโฟน


แนวโน้มของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือ จากมือถือธรรมดามาเป็นโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ตโฟน พบว่าไม่ได้ประสบความสำเร็จทางการตลาดเสมอไป หากกิจกรรมการตลาดที่เกี่ยวข้องกับสมาร์ตโฟนไม่ได้แสดงความอัจฉริยะให้เพียงพอต่อความน่าเชื่อถือด้านบริการรูปแบบใหม่ สมรรถนะของเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าของสมาร์ตโฟนแบรนด์นั้นๆ

ตามรายงานการวิเคราะห์ทางการตลาดของ Analysys Mason ที่ทำการสำรวจผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ พบว่า 46% หรือเกือบครึ่งหนึ่งหันมาใช้สมาร์ตโฟนแล้ว แต่ความรู้สึกหลังจากการใช้สมาร์ตโฟน ไม่ได้ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่าตนได้แรงจูงใจในการยกระดับอัจฉริยะในการใช้งานโทรศัพท์มือถือให้สมกับชื่อสมาร์ตโฟนแต่อย่างใด

นอกจากนั้น การศึกษาของ TMT ที่เป็นส่วนหนึ่งของรายงานใน Analysys Masonที่มาจากการสอบถามผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 7,485 คน ใน 6 ประเทศทางยุโรปและสหรัฐ ระบุว่า ราคาที่แพงลิ่วของสมาร์ตโฟน และการตัดสินใจซื้อสมาร์ตโฟนโดยไม่เข้าใจเกี่ยวกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำหน้าอย่างเพียงพอ กลายเป็นจุดที่ทำให้การรับรู้และทัศนคติของผู้ใช้สมาร์ตโฟนไม่ได้เห็นการเพิ่มความอัจฉริยะของสมาร์ตโฟนตามชื่อไปด้วย

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ต๊อบ อิทธิพัทธ์ เจ้าของธุรกิจพันล้าน เถ้าแก่น้อย


หลายคนอาจจะได้ดูตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง "TOP SECRET วัยรุ่นพันล้าน" กันมาแล้ว ด้วยตัวอย่างที่น่าติดตามต่างจากภาพยนตร์วัยใสทั่วไป เพราะภาพยนตร์ดังกล่าวนั้นมีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริง!! ของเด็กหนุ่มที่ติดเกมออนไลน์... เรียนหนังสือไม่เก่ง แถมถูกประณามว่าเป็นเด็กไม่เอาไหน แต่ใครจะรู้ว่าเขาคนนั้นจะกลายมาเป็นเศรษฐีร้อยล้านเพียง อายุแค่ 23 ปีเท่านั้น (เขาร้อยล้านตอนอายุ 23 แต่ตอนนี้ 26 แล้วอ่า) !


นั่นแน่... อยากรู้กันแล้วใช่ไหมว่าเขาคนนั้นคือใคร แล้วทำไมเขาถึงกลายเป็นเศรษฐีได้ในเวลาอันสั้น ไปทำความรู้จักกับ "ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์" เจ้าของธุรกิจสาหร่ายทอดกรอบแบรนด์ "เถ้าแก่น้อย" กันเลย

ต๊อบ อิทธิพัทธ์ กุลพงษ์วณิชย์ เศรษฐีร้อยล้านคนนี้ ก่อนหน้านี้เขาถูกตราหน้าว่าเป็นคนไม่เอาถ่าน ไม่สนใจเรียน ชีวิตของ ต๊อบ มีแต่คำว่า "เกม" เท่านั้น โดยต๊อบเริ่มเล่นเกมออนไลน์ Everquest มาตั้งแต่ ม.4 ถึงขนาดสะสมแต้มจนรวยที่สุดในเซิร์ฟเวอร์ และกลายเป็นผู้ที่มีชื่อเสียงอย่างมากในเกมดังกล่าว จนมีฝรั่งมาขอซื้อไอเท็มเด็ด ๆ ไอเท็มเจ๋ง ๆ ที่หายากในเกมจากเขา และนั่นก็เป็นการเริ่มต้นสร้างรายได้ของต๊อบ ซึ่งการซื้อขายไอเท็มเกมดังกล่าว บวกกับการที่เป็นผู้ทดสอบระบบเกมในฐานะคนเล่น ก็สร้างรายได้ให้เขาเป็นกอบเป็นกำ จนมีเงินเก็บเป็นหลักแสนบาทเลยทีเดียว