วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2556

สื่อดิจิตอลร้อนแรงจัด นักการตลาดตอมฉุดแพลตฟอรืมใหม่เกิด


"ดิจิตอล มีเดีย"เนื้อหอมสุดๆ เอเยนซีโหมทุ่มงบลุยตลาดจริงจัง "กรุ๊ปเอ็ม" เผย 4 เทรนด์ใหม่นักการตลาดรุมเล่น จับตาคลิปวิดีโอยังมาแรง ด้าน "ธอมัสไอเดีย" คาดตลาดหนังสือ นิตยสารลดลงหนีสื่อรูปเล่มเข้าสู่แพลตฟอร์มใหม่

ล่าสุดจับมือเอ็กซ์เอ็มเอเชียชูจุดแข็งสู่เครือข่ายดิจิตอลเอเยนซีแห่งเอเชีย ขณะที่สื่อโฆษณาดิจิตอลในประเทศไทยปีนี้จะขยายตัวสูงเพิ่มขึ้นเป็น 5% จากมูลค่าสื่อทั้งหมด 1.2 แสนล้าน
การเติบโตอย่างร้อนแรงของสื่อดิจิตอลในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ยังไม่มีทีท่าว่าจะซาลงง่ายๆ ในทางตรงข้าม กลับมีบทบาทและถูกจับตามองว่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสื่อเมืองไทย โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี เส้นทางของสื่อดิจิตอล จะกลายเป็นผู้นำด้วยแพลตฟอร์มใหม่ๆ ซึ่งผู้ประกอบการไทยเองไม่ว่าจะในแวดวงใดก็ต้องเรียนรู้ที่จะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

   โดยเรื่องดังกล่าวนายศิวัตร เชาวรียวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็มอินเตอร์แอ็คชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมองว่าสื่อดิจิตอลจะขยายตัวมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา อีกทั้งยังมีแนวโน้มที่จะถูกนำไปใช้ผ่าน 4 รูปแบบ ประกอบไปด้วย

1. Integrated การวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมาย โดยสำรวจจากลูกค้าที่เสิร์ชหาข้อมูลผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด ว่ามาจากเว็บใดและซื้อที่ไหน

2. DSPs (Demand Side Platforms) นักการตลาดจะเลือกซื้อสื่อออนไลน์เฉพาะกลุ่ม เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันฉลาดมากขึ้นอีกทั้งยังช็อปปิ้งผ่านทางออนไลน์มากกว่าเดิม ดังนั้นนักการตลาดจำเป็นจะต้องใช้เงินของลูกค้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด

3.VDO สื่อโฆษณาที่จะถูกแทรกเข้ามากับรายการ ละคร บนยูทูบและเว็บไซต์ต่างๆ ทั้งโฆษณารูปแบบสั้นตั้งแต่ 30 วินาที หรือโฆษณาความยาว 5 นาที รวมถึงการนำสื่อที่เคยออกอากาศบนทีวี มาฉายซ้ำบนอินเตอร์เน็ต 4. การจัดสรรงบโฆษณาใหม่ จากเดิมจะเป็นรูปแบบการจ่ายเงินซื้อสื่อต่างๆให้ครอบคลุม แต่ในปีนี้นักการตลาดจะหันมาเล่นด้านคอนเทนต์ให้มีความแปลกใหม่ สร้างสรรค์ พร้อมทั้งต้องใช้กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์ต่อยอด

   "เงินทุกบาทที่จ่ายไปกับค่าโฆษณา ทุกสื่อมีโอกาสสูญเปล่า เพราะบางกลุ่มอาจจะไม่ตรง แต่ในแง่ของสื่อดิจิตอลทุกเว็บสามารถวัดความสนใจของผู้ที่เข้ามาดูได้ ว่ามีจำนวนเท่าไร และนักการตลาดสามารถเลือกจ่ายค่าสื่อโฆษณาได้ตามความต้องการด้วยอัตราเรตราคาไม่เท่ากัน และราคาถูกกว่าสื่อออฟไลน์หลายเท่าตัว" นายศิวัตร กล่าว

   ขณะเดียวกันในอนาคตบริษัทมองว่าเอเยนซีต่างๆจะให้ความสำคัญกับตลาดดิจิตอลมากขึ้น พร้อมทั้งการเสนองานลูกค้า ต้องไม่คัดหน้าตาสินค้าเหมือนกับอดีต แต่ควรเน้นที่การปฏิบัติ ต้องคิดเพียงแค่ทำอย่างไรให้ขายของได้ หากเอเยนซีในปัจจุบันไม่คำนึงถึงสิ่งนี้มากตลาดดิจิตอล มีเดียในประเทศไทยก็จะเหมือนกับตลาดต่างประเทศที่เน้นแต่เรื่อง performance

   นอกจากนี้บริษัทคาดการณ์ผลประกอบการสื่อดิจิตอลของเอเยนซีต่างๆ กว่า 20 บริษัท ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะผลประกอบการของบริษัททั้งปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 30-40% ซึ่งภายในสิ้นปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีรายได้เติบโตกว่า 40-50%

     ด้านนางสาวอุไรพร ชลสิริรุ่งสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธอมัสไอเดีย จำกัด ผู้ให้บริการด้านสื่อดิจิตอล กล่าวว่า ภาพรวมตลาดดิจิตอลมีเดียในปีที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดี เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันหันมาใช้เทคโนโลยีด้านการสื่อสาร อาทิ สมาร์ทโฟนมากขึ้น อีกทั้งมาจากการที่อุปกรณ์แพร่หลายและมีโซเชียลมีเดียมากมายให้แบรนด์ต่างๆเข้าไปใช้พื้นที่ และพบว่าผู้บริโภคไทยเกือบทุกกลุ่มใช้ช่องทางออนไลน์เป็นสื่อหลัก และเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจซื้อสินค้าพร้อมกับซื้อของออนไลน์มากขึ้น

     ขณะที่แนวโน้มแบรนด์ดังของโลกเปลี่ยนมุมมองใหม่ จากเดิมที่เคยมองว่าสื่อดิจิตอลเป็นเพียงเครื่องมือในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ แต่ปัจจุบันเริ่มใช้เทคโนโลยีสร้างรายได้ผ่านการสร้างแบรนด์ข้ามโลกและลงทุนกับระบบดิจิตอลคอมเมิร์ซมากขึ้น ซึ่งวันนี้นักการตลาดไทยเองก็ควรใช้สื่อดังกล่าวมาสร้างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้บริษัทมองว่าสื่อออฟไลน์ เช่น หนังสือและนิตยสารที่เป็นรูปเล่ม จะหายไปในอนาคต แต่คอนเทนต์จะยังไม่หายไปแต่จะย้ายแพลตฟอร์มาสู่บนอินเตอร์เน็ตแทน

   "การลงทุนในต่างประเทศผ่านดิจิตอลคอมเมิร์ซกำลังมาแรง จากนี้ไปข้อมูลที่ได้จากการคลิกแต่ละครั้ง คือขุมทรัพย์ข้อมูลที่แบรนด์ต้องนำมาวิเคราะห์ ทำการบ้านและคิดโปรโมชันอย่างไวและช่วยให้แข่งกับกลไกการตลาดออนไลน์ของคู่แข่งจากทุกมุมโลกได้

ในขณะที่มูลค่าของสื่อออนไลน์ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตที่สัดส่วน 5% ของสื่อโฆษณาทั้งหมดจากงบโฆษณา 1.2 แสนล้านบาท" นางสาวอุไรพร กล่าว

   ล่าสุดบริษัทได้ร่วมหุ้นกับบริษัท เอ็กซ์เอ็ม เอเชีย แปซิฟิก จำกัด ดำเนินธุรกิจดิจิตอลเอเยนซีในเชิงลึกมากขึ้น เนื่องจากบริษัทดังกล่าวทำการตลาดให้กับมาสเตอร์การ์ดทั่วโลก ย่อมมองเห็นช่องทางดิจิตอลที่สำคัญ ส่วนแผนงานที่บริษัทมีเป้าหมายการดำเนินธุรกิจร่วมกัน คือรุกตลาดอาเซียน พร้อมทั้งต่อยอดลูกค้าซึ่งกันและกัน เพราะในปัจจุบันก็มีลูกค้าโลคัลของธอมัสไอเดียที่อยากไปทำตลาดต่างประเทศ ขณะที่แบรนด์ต่างประเทศก็อยากทำตลาดออนไลน์ในประเทศไทยเช่นกัน

   นอกจากนี้บริษัทมีเป้าหมายระยะยาวภายใน 3-5 ปี จะขยายทีมงานดิจิตอลมากขึ้น เพื่อรองรับกับสื่อดังกล่าวที่จะเติบโต พร้อมทั้งดึงกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่ทำตลาดออนไลน์ให้เข้ามาทำ และเน้นกลยุทธ์สร้างความคุ้มค่ากับเงินที่ลูกค้าจ่ายมาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขณะเดียวกันในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการเติบโตอยู่ที่ 20-40% จากเดิมในปีที่ผ่านมาเติบโตอยู่ที่ 20%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 33 ฉบับที่ 2,831
วันที่ 31 มีนาคม - 3 เมษายน พ.ศ. 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น