วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ซื้อคอนโดปล่อยเช่า 'รุ่ง' หรือ 'ร่วง' ในปีเสือ


ใครที่คิดจะลงทุนด้วยการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าอย่างไรให้ได้ดอกผลงอกงาม ลองตามมาฟังความเห็นของคนเหล่านี้กัน

O"ทำเล" คือหัวใจ
"ภูพงษ์ สืบวงศ์ลี" กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอดี้เชฟ ในฐานะผู้ที่ชื่นชอบการลงทุนด้วยการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า เชื่อมั่นว่าการลงทุนวิธีนี้ยังให้ผลตอบแทนที่ดีเสมอ ขอเพียงรู้จักวางแผนและเลือกอย่างละเอียด ซึ่งเขามองว่าคนที่ลงทุนเป็น ไม่มีเสีย มีแต่ได้ นอกจากระยะสั้นจะมีรายได้จากค่าเช่า พอ ผ่อนหมดคอนโดก็เป็นสินทรัพย์ของเรา และหากอนาคตราคาขยับขึ้นจะปล่อยขายทำกำไรอีกต่อก็ยังได้

แน่นอนว่า น้ำหนักส่วนใหญ่ของการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ยังอยู่ที่ "ทำเล" จะปล่อยเช่าได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าคอนโดแห่งนั้นตั้งอยู่ตรงมุมไหนของเมือง
"ผมว่าสำคัญที่สุดคือโลเคชัน อย่างของผมเริ่มด้วยการซื้อคอนโดแถวทองหล่อราคาประมาณ 5.2 ล้านบาท กะจะเอาไว้ปล่อยขายเก็งกำไร วิธีการลงทุนคือผ่อนกับโครงการเดือนละ 3 หมื่น 2 ปีเท่ากับ 7.2 แสนบาท ค่าจอง 2 แสน รวมทั้งหมดก็คือ 9.2 แสน ตั้งแต่ผมซื้อมาราคาก็ค่อยๆ ขยับขึ้นมาเป็น 5.3 ล้าน และตอนนี้เป็น 6 ล้านแล้ว เรียกว่ายังไม่ทันขายก็กำไรเยอะแล้ว ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า การเลือกทำเลที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง"

ภูพงษ์บอกว่า ในทัศนะของเขา การเลือกทำเลแถวย่านใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจ อย่างชิดลม สาทร เพลินจิต ราชเทวี สุขุมวิท ทองหล่อ หลังสวน

"บุญส่ง บุตรสีทา" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอริน ดีเวลลอปเม้นท์ ผู้พัฒนาโครงการ ออริจินส์ คอนโดมิเนียม บนถนนพระราม 2 บอกว่า ในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในปัจจุบัน การลงทุนในคอนโดมิเนียมถือว่าคุ้มและรุ่งมาก ซึ่งถ้าเป็นการซื้อเพื่อปล่อยให้เช่า ต้องเลือกเป็นย่านๆ ไป อย่างพระราม 2 ตอนนี้ยังไม่มีซัพพลาย

"ทำเล" คือ ตัวแปรแรก ที่บุญส่งให้น้ำหนักว่าการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าของคุณจะรุ่งหรือร่วง เขาว่าน้ำหนักเกือบ 80% อยู่ที่ทำเล ถ้าทำเลไม่ได้ ทุกอย่างจบ ขายยาก ปล่อยเช่ายาก ราคาก็ไม่ขยับ แต่ถ้าทำเลดีซะอย่างราคามักจะสูง ปล่อยเช่าก็ง่าย

"สำคัญว่า ต้องมองระยะยาวว่าซัพพลายเยอะแค่ไหน ต้องดูแนวโน้มของเมืองว่าจะมูฟไปทางไหน และต้องดูดีมานด์กับซัพพลายด้วยว่าสอดรับกันหรือเปล่า อย่างตอนนี้ผมว่า คอนโดริมรถไฟฟ้าก็มีความเสี่ยงสูง เพราะซัพพลายค่อนข้างเยอะ ผมว่าดีที่สุดคือพวกที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษา ผมเซอร์เวย์มาหลายที่แล้ว ถ้าคอนโดที่อยู่ใกล้มหาวิทยาลัย ไม่มีเจ๊ง ราคาดี สถานศึกษาอยู่รอบเมือง ราคาไม่สูงมาก"

"ชาติชาย พยุหนาวีชัย" ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ทำเลจะเป็นตัวชี้วัดถึงผลตอบแทนจากการลงทุนได้ดี เพราะคอนโดขนาดเดียวกัน แต่ถ้าตั้งคนละที่ แน่นอนว่าผลตอบแทนย่อมแตกต่างกัน เช่นถ้าซื้อแถวปิ่นเกล้าแล้วปล่อยเช่า อาจจะได้ผลตอบแทนประมาณ 3-5% แต่ถ้าไปซื้อแถวริมรถไฟฟ้าบีทีเอสผลตอบแทนอาจจะขยับเป็น 5-8%

"หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า การซื้อคอนโดริมรถไฟฟ้าบีทีเอส จะยังไปได้หรือไม่ ผมมองว่ายังเป็นการลงทุนที่ไปได้ เพราะในเจเนอเรชั่นหน้า ผู้คนจะใช้ชีวิตอยู่ใจกลางเมืองมากขึ้น ฉะนั้นทุกคนเริ่มอยากจะหาที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้า อาจจะเป็นเพราะน้ำมันแพง จนอยากขับรถน้อยลง ทำให้คอนโดในเมืองได้รับความนิยมค่อนข้างมากขึ้น ผมจึงมองว่าซื้อแล้วปล่อยเช่า ถ้าเป็นแถวริมรถไฟฟ้ายังมีโอกาส อย่างน้อยก็มีต่างชาติที่มาทำงาน เขาคงไม่อยากไปเช่าแถวชานเมือง เขาต้องเลือกเช่าใจกลางเมือง หรือริมรถไฟฟ้าก่อน ดังนั้น หากมองในแง่มูลค่าเพิ่มของทรัพย์สิน คอนโดย่านใจกลางเมืองและริมรถไฟฟ้าจึงมีมากขึ้นอยู่แล้ว เพราะทุกวันนี้ผู้พัฒนาโครงการไม่สามารถหาที่มาทำโครงการใหม่ได้"

Oเลือกผู้พัฒนาโครงการมีชื่อ&ประวัติดี
ภูพงษ์บอกว่า การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง แม้กระทั่งการซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อปล่อยเช่าหรือขายในอนาคต ความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่เราสามารถควบคุมและจัดการได้คือ เลือกผู้พัฒนาโครงการที่มีชื่อชั้น มีประสบการณ์ในเรื่องการสร้างคอนโดมิเนียมมายาวนาน นั่นเท่ากับว่าเราได้กรองความเสี่ยงไประดับหนึ่งแล้ว

"คนชอบถามผมว่าลงทุนในคอนโดมีความเสี่ยงมั้ย ผมก็บอกว่า ถ้าผู้พัฒนาโครงการไม่ดีก็เป็นความเสี่ยงเช่นกัน ฉะนั้น เราก็ต้องเลือกผู้พัฒนาโครงการที่มีชื่อเสียง ผมยกตัวอย่างง่ายๆ ว่า ถ้าเราผ่อนกับโครงการไปได้ระยะหนึ่งแล้ว เกิดโครงการเจ๊งขึ้นมาเราก็แย่เลย หรือสร้างเสร็จไม่ทันกำหนด ความเสี่ยงก็จะตกอยู่กับเรา"

วิธีการเช็คว่าบริษัทนั้นเป็นอย่างไร ก็ให้ดูว่าเคยมีประวัติการก่อสร้างโครงการดีหรือไม่ แคชโฟลว์เป็นอย่างไร ซึ่งถ้าเป็นทำเลดีแต่เป็นผู้พัฒนาโครงการหน้าใหม่ ก็อาจต้องดูเยอะหน่อย แต่ก็ค่อนข้างน่ากลัว ทางที่ดีคือเลือกเจ้าที่มีชื่อเสียง ช่วยลดความเสี่ยงได้

บุญส่งเห็นด้วยกับประเด็นนี้ ผู้ซื้อจำเป็นต้องเลือกผู้พัฒนาโครงการที่ไว้ใจได้และมีประวัติดี ซึ่งผู้พัฒนาโครงการที่ดีมักจะสร้างคอนโดที่เป็นชุมชนหรือสังคมที่ดี เมื่อสังคมดีอนาคตก็ปล่อยขายง่าย แต่เรื่องราคาจะขึ้นเท่าไหร่หรือกี่เปอร์เซ็นต์ เป็นเรื่องที่พูดลำบาก ขึ้นกับสภาพโครงการด้วย

Oมีเงินดาวน์-มีกำลังผ่อน
เพื่อให้การลงทุนในคอนโดมิเนียมเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เป็นภาระในการผ่อนกับธนาคารมากเกินไป ภูพงษ์บอกว่าควรจะมีเงินทุนเริ่มต้นซักก้อนหนึ่ง เอาไว้ดาวน์หรือจ่ายค่างวดกับโครงการ ก่อนที่จะกู้และผ่อนกับธนาคาร เขายกตัวอย่างคอนโดที่ลงทุนว่าสมมติราคา 5.2 ล้านบาท วางเงินจอง 2 แสนบาท เหลือ 5 ล้านบาท โครงการให้ดาวน์ 30% ก็เป็นเงิน 1.5 ล้านบาท หากไม่มีเงินทุนเลยจะเอาตรงไหนจ่าย ดังนั้น จึงต้องมีเงินทุนที่แน่นอนก่อน

"ถ้าเครดิตไม่ดี แบงก์ไม่ปล่อยกู้ 100% ฉะนั้น คิดจะลงทุนด้วยการซื้อคอนโดมิเนียมปล่อยเช่า เราต้องมีทุนประมาณหนึ่ง อย่างน้อยก็ไม่หนักตอนที่เราจะผ่อนกับแบงก์"

ภูพงษ์ เล่าสไตล์การลงทุนของเขาว่า ปกติธนาคารจะให้กู้ประมาณ 80-90% ฉะนั้น จำเป็นต้องมีเงินก้อนหรือผ่อนก่อนประมาณ 10-20%ของราคาคอนโด ซึ่งถ้าปกติ เป็นผู้ที่มีหน้าที่การงาน มีเครดิตดี ก็น่าจะขอกู้ได้ไม่ยาก

อีกประเด็นหนึ่งที่ต้องคิดเผื่อคือ หากไม่มีผู้เช่าอย่างที่เราคาดหวัง คุณต้องประเมินกำลังตัวเองก่อนว่า มีความสามารถในการผ่อนรายเดือนไหวหรือไม่ เพราะมีผู้คนลงทุนหลายคน หวังว่าจะนำค่าเช่ารายเดือนมาผ่อนกับธนาคาร แต่พอไม่มีผู้เช่า กลายเป็นมีปัญหา และในที่สุดก็ผ่อนไปไม่ตลอดรอดฝั่ง

Oใครคือผู้เช่า
หากคุณตอบคำถามนี้ยังไม่ได้ ก็ไม่ควรคิดลงทุนด้วยการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า คำถามนั้นคือ คุณคิดว่าใครคือคนที่จะมาเช่าคอนโดที่คุณซื้อไว้?? หากยังไม่ชัดเจนหรือยังคลุมเครือ อย่าเพิ่งซื้อ คุณต้องชัดเจนในคำตอบข้อนี้ก่อน ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณรู้ว่า ใครน่าจะมาเช่าคอนโดตรงนี้ ก็น่าจะทำให้อนาคตการหารายได้เพื่อมาผ่อนค่าคอนโดก็ง่ายขึ้น

ภูพงษ์ยกตัวอย่างว่าถ้าเป็นละแวกราชเทวี สาทร น่าจะเป็นพวกฝรั่งเช่า แต่ถ้าเป็นแถวทองหล่อ สุขุมวิท อาจจะเป็นพวกญี่ปุ่นมาเช่า หรือถ้าเป็นคอนโดในย่านมหาวิทยาลัยหรือสถานศึกษาก็อาจจะมีพวกนักศึกษามาเช่า

"ความเสี่ยงของคนที่คิดจะซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า คืออาจจะหาผู้เช่าไม่ได้อย่างที่คาดหวังไว้ ในที่สุดก็ผ่อนแบบกระท่อนกระแท่น อย่างผมถ้าตั้งใจปล่อยเช่า ผมจะถามตัวเองก่อนเลยว่า ถ้าซื้อตรงนี้ คิดว่าใครจะมาเช่าของเรา ซึ่งถ้าไม่อยากเสี่ยงเราก็หาโบรกเกอร์ที่เขาคอยหาคนเช่าให้ ยอมเสียค่าธรรมเนียมให้เขาหน่อย แต่ก็ดีกว่าไม่มีคนเช่า ตรงนี้ก็เป็นเครื่องมือช่วยลดความเสี่ยง ไม่ต้องคอยหาเอง เขาดูแลให้หมด"

บุญส่งให้ทัศนะว่า คนจะลงทุนในคอนโดเพื่อปล่อยเช่า สำคัญมากต้องรู้ว่าใครจะเช่า เช่นถ้าใกล้สถานศึกษา ก็อาจจะเป็นนักศึกษาที่มาจากต่างจังหวัด หรืออยู่ในย่านกลางเมือง ก็อาจจะเป็นคนทำงานที่ต้องการเช่าใกล้ที่ทำงาน

"ทำเลต้องแมทช์กับลูกค้าที่จะเช่าด้วย ว่าย่านนั้นเป็นใคร เป็นต่างชาติ เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ไม่ใช่ดูแค่ทำเลดีอย่างเดียว แต่เราต้องดูด้วยว่าจะให้ใครเช่า อย่างสมมติซื้อแถวรัชดา ทำเลดีนะ แต่ใครจะเช่า ต้องตอบให้ได้ก่อน ถ้าตอบไม่ได้เหนื่อยแน่"

Oตั้งราคาไม่เวอร์
ตัวแปรสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่จะทำให้คอนโดของคุณได้รับความสนใจจากผู้เช่าคือเรื่องราคา ภูพงษ์บอกว่าประการแรกคงต้องดูว่าคอนโดในละแวกนั้นหรือในที่เดียวกัน ห้องอื่นคิดค่าเช่าราคาประมาณไหน เฉลี่ยเท่าไหร่ เพื่อให้ราคาของเราสมเหตุสมผล ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

"อย่างกรณีผม สมมติกู้ 7.5 ล้านบาท ต้องผ่อนเดือนละ 4.4 หมื่น ผ่อนกับแบงก์ 30 ปี แต่ผมเซอร์เวย์แล้วว่า ที่แถวนี้เขาคิดค่าเช่ากันประมาณเดือนละ 5 หมื่นบาท ผมก็อาจจะคิดเท่าราคาเฉลี่ย แต่ถ้าอยากให้ผู้เช่าตัดสินใจง่ายขึ้น เราอาจจะปรับค่าเช่าลงมาอีกนิด ให้ถูกกว่าแถวนั้นสักหน่อย คือเรียกว่าให้เราก็ยังรับได้ และเขาก็รับได้ ข้อสำคัญคือต้องตั้งราคาไม่โอเวอร์มาก"

บุญส่งบอกว่า ราคาค่าเช่าที่ตั้งไว้มีผลแน่นอน แต่ก็ต้องดูว่าคุ้มกับเงินที่เราผ่อน และคุ้มกับดอกเบี้ยหรือไม่ อย่าลืมว่าการปล่อยคอนโดให้เช่า คู่แข่งเราคืออพาร์ตเมนต์ ต้องสำรวจด้วยว่าแถวนั้นค่าเช่าอพาร์ตเมนต์ราคาเท่าไหร่ ถ้าเขาคิด 3,500 แล้วเรามาปล่อยเช่า 6,000 ก็อาจจะเหนื่อย

Oตกแต่งดีมีสไตล์ปล่อยเช่าง่ายขึ้น
ประสบการณ์จากการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า ทำให้ภูพงษ์รู้ว่า ไม่เพียงรู้ว่าผู้เช่าคือคนกลุ่มไหน และราคาดึงดูดใจหรือไม่ แต่อีกองค์ประกอบหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ผู้เช่าตัดสินใจได้ง่ายและเร็วขึ้นคือ เมื่อเขาเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบว่า การตกแต่งถูกใจและมีสไตล์

"ห้องโล่งปล่อยเช่ายากกว่า ห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ปล่อยเช่าง่าย แต่จะให้ดีที่สุดคือมีการตกแต่งที่ดูดีมีสไตล์ เพราะผมคิดว่า ตอนนี้การหาลูกค้าต่างชาติมาเช่าห้องของเรา ผมว่าไม่ยาก เพราะเดี๋ยวนี้มีโซเชียลเน็ตเวิร์คเยอะแยะ โบรกเกอร์ก็มี ข้อสำคัญเราตกแต่งดี ราคาไม่แพงเกิน เชื่อเถอะว่าห้องไม่ว่างหรอก บางทำเลโอเวอร์บุ๊คด้วยซ้ำ เราต้องทำอะไรให้แตกต่างจากห้องอื่นๆ ทั้งเรื่องบริการ และการตกแต่ง ผมทำแม้กระทั่งศึกษาเทรนด์การตกแต่งที่ฝรั่งชอบ แบบโมเดิร์น หรือแบบเอเชี่ยนก็ต้องศึกษาตลอด เท่านี้ความเสี่ยงจากการไม่มีผู้เช่าก็น้อยลง"

บุญส่งเองก็เห็นด้วยกับภูพงษ์ ว่าการตกแต่งห้อง เป็นเรื่องที่จำเป็นมาก เพราะผู้เช่าคอนโดในปัจจุบัน ต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องการความยุ่งยาก ในการเข้ามาเช่าแล้วต้องตระเวนซื้อเฟอร์นิเจอร์ เพราะฉะนั้น ถ้าตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ก็มีแนวโน้มปล่อยเช่าง่ายกว่า

Oขยันทำการบ้าน&หมั่นหาความรู้
ภูพงษ์ ยังแนะอีกว่า รักจะลงทุนด้วยการซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่า ต้องมีเวลาในการค้นหาความรู้ หมั่นศึกษาและใส่ใจรายละเอียดไม่ต่างจากการลงทุนประเภทอื่น แต่อันดับแรกควรจะมีความรู้เรื่องอสังหาริมทรัพย์บ้าง หรือถ้าไม่รู้ก็พยายามติดตามและศึกษา

"บังเอิญผมชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว ก็ศึกษาไปเรื่อยๆ จากนั้นก็ค่อยอ่านในอินเทอร์เน็ต ว่าแนวโน้มคอนโดตอนนี้เป็นยังไง ขณะเดียวกันก็คอยสอดส่องดูว่าตรงไหนเป็นทำเลที่มีอนาคต นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมดูเงินในหน้าตักของเรา ว่าเรารับภาระตรงนี้ได้แค่ไหน ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องขยันไปตระเวนดูคอนโดตามจุดต่างๆ อย่างผมพอว่างปุ๊บ ผมจะไปเดินไปสำรวจดูคอนโด จะชอบไปเดินแถวทองหล่อ พอชอบตรงไหนก็จะใช้เวลาไตร่ตรองจนกว่าจะแน่ใจถึงซื้อ ผมว่าคนรักจะลงทุนต้องทำการบ้านเยอะ ต้องมีเวลาศึกษาและเซอร์เวย์คุยกับคนขาย ต่อรองราคาลดได้มั้ย หรือแถมอะไรให้บ้าง"

เพราะทำการบ้านเยอะ และใส่ใจในทุกรายละเอียดของการลงทุน ภูพงษ์บอกว่า ตั้งแต่ลงทุนในคอนโดมิเนียม เขาจึงยังไม่เคยบาดเจ็บ นับจากการลงทุนครั้งแรกที่ซื้อไว้เพื่อเก็งกำไรขายในอนาคต ตอนนี้ก็ไปได้สวย ราคามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ เขาบอกว่ารออีกสักพักอาจจะได้กำไรถึง 200%

"ผมตั้งใจจะซื้อคอนโดเก็บไปเรื่อยๆ ตอนนี้มี 2 ห้องตั้งเป้าว่าอายุ 25 จะมี 10 ห้อง พออายุ 30 จะมีซัก 50 ห้อง ผ่อนไปปล่อยเช่าไป คิดว่ากำไรห้องละหมื่น ก็เท่ากับว่ากำไร 5 แสนต่อเดือน ยิ่งถ้าผ่อนหมด กำไรไม่รู้กี่เท่าตัว รุ่นพี่ของผมคนหนึ่งกำไรจากการปล่อยเช่าคอนโดปีละ 6 ล้าน ตอนนี้เขาเลยเอาเงินตรงนั้นทำคอนโดขายให้คนอื่นบ้าง เราทำแบบนี้จะรู้ว่าคนซื้อ อยากได้แบบไหน ทำแนวไหนถึงจะขายได้ เมื่อเรารู้จักคนซื้อดี ต่อไปก็ขายสบาย ผมวางแผนว่า พอซักอายุ 40 จะเปลี่ยนจากผู้ซื้อไปเป็นผู้ขายบ้าง สร้างคอนโดขายเองเลย ผมว่าธุรกิจนี้ยังไปได้ เพราะเมื่อประชากรเยอะขึ้น เศรษฐกิจโตขึ้น ราคาที่ดินจะขยับขึ้น เพราะมีจำกัด ฉะนั้นในอนาคต รัชดา อโศก เอกมัย หรืออาจจะข้ามไปถึงฝั่งธน ก็อาจจะกลายเป็นทำเลทอง ถ้าเราจะลงทุนพวกนี้ ต้องมองอนาคตด้วย ต้องศึกษามากหน่อย"

Oอย่าซื้อตามกระแส
บุญส่งบอกว่าการลงทุนในคอนโดก็ไม่ต่างจากการลงทุนประเภทอื่นๆ กฎข้อหนึ่งคือต้องไม่ซื้อหรือลงทุนตามกระแส ต้องไตร่ตรองดูจากความเป็นจริงให้มากที่สุด ก็จะมีกำไรจากการลงทุนได้ไม่ยาก

"อย่าเป็นประเภท พอคนแห่ไปจองที่นี่กัน เราก็แห่ตามเขา ซื้อตามกระแส จนบางทีกลายเป็นลงทุนเกินตัว พอไม่มีคนเช่าขึ้นมา เราซัพพอร์ตผ่อนไม่ไหว แย่แน่ ผมว่า ไม่ว่าจะทำอะไรต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง แต่ถึงยังไงผมก็มองว่าการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มีแต่ข้อดี เพราะมันเพิ่มค่าทุกวัน ทำให้เรามีเงินเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และสร้างรายได้ให้เราได้ด้วย ถ้าเก็บเป็นทองคำ ทองทำค่าเช่าให้เราไม่ได้ แต่คอนโดปล่อยเช่าได้ แต่ก็ถือว่าเป็นการเก็บเงินต่างรูปแบบ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าพอเกิดวิกฤติ ทองอาจจะเปลี่ยนเป็นเงินได้ทันที แต่คอนโดก็อาจจะมีสภาพคล่องน้อยกว่า ต้องคำนึงถึงจุดนี้ด้วย ท้ายสุดผมว่าเรื่องของการลงทุน ทำอะไรให้พอดีตัวเอง จะสนุกกับมัน ไม่อึดอัด เพราะเราต้องอยู่กับมันไปตลอด ตื่นมาเจอทุกวัน ถ้าเราไม่แฮปปี้เราก็เหนื่อย"

ทั้งหมดนี้ คงพอช่วยคุณประเมินได้ว่า การลงทุนในคอนโดปีนี้ยังพอไปได้อีกหรือไม่ ข้อสำคัญ คุณคงพอมีแนวทางได้ว่า จะลงทุนซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่าอย่างไรให้รุ่งมากกว่าร่วง



โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2553

3 ความคิดเห็น:

  1. กำลังจะลงทุนคอนโดเลยค่ะ น่าสนใจมากเลย

    ตอบลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  3. เลือกแบบห้อง หอพัก คอนโด อพาร์ทเมนต์ แมนชั่น ทาวเฮ้าส์ หรือ บ้านเช่า ได้ที่ ห้องเช่าในกรุงเทพ นี้

    ตอบลบ