วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เถ้าแก่หัดขับ ไอเดียสุด Cool


ในวัยยังไม่ถึง 20 ปี ของเด็กหนุ่มเพื่อนซี้ 3 สไตล์ รวมตัวกันเพื่อปลดปล่อยไอเดียสุดเจ๋ง ดึงประสบการณ์นอกตำรา มาหาทางรวยบนโลกไซเบอร์ ...

"น้องวินทร์-สุภวินทร์ จันทรคุปตังกูร" "น้องอ๋อง- ชัยวุฒิ กำพลวิชิตพัฒน์" นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ "น้องโน้ต - พิชญ์ สืบถวิลกุล" นักศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ อดีตเพื่อนซี้ในสนามฟุตบอลของโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ที่วันนี้จะสลัดความละอ่อน มาพิสูจน์ตัวเองในเวทีเถ้าแก่น้อย

ด้วยการลงประกวดขายสินค้าออนไลน์ ในเว็บไซต์ www.weloveshoping.com เปิดไอเดียให้วัยรุ่น 3 คน ที่เพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปี 1 ในเวลานั้น เห็นโอกาสหวานๆ บนหน้าจอไซเบอร์

แม้เวทีนั้นพวกเขาจะ “ปิ๋ว!!” ไม่สามารถคว้ารางวัลมาครองได้สำเร็จ เพราะขาย "สินค้าแฟชั่นจากเกาหลี" ที่ไม่มีทั้งความถนัด และคู่แข่งขันเพียบ

แต่จากเวทีนั้น ทำให้พวกเขาเห็นโอกาสบนโลกไซเบอร์ นักช้อปออนไลน์ที่พร้อมจับจ่ายสินค้าไอเดียเจ๋งๆ

จึงเบนเข็มสู่งานดีไซน์ สิ่งที่รัก งานที่ชอบ

“พวกเราต่างก็ชอบงานดีไซน์อยู่แล้ว แต่ตอนแรกที่ไม่ได้เอามาวางขาย เพราะงานดีไซน์พวกนี้ เป็นเอสเอ็มอีที่ค่อนข้างใหญ่ ส่วนมากเขาจะเน้นขายในต่างประเทศ ไม่ค่อยปล่อยของให้เราง่ายๆ เพราะกลัวถูกก๊อบปี้ด้วย”

"Loft" เป็นเวทีแรกที่พวกเขาหาสินค้าก่อนที่จะต่อยอดหาผู้ประกอบการตัวจริง ที่งานแสดงสินค้าระดับประเทศ อย่าง Thailand best buy และ งาน BIG&BIH

งานนี้ไม่มีอะไรง่าย แต่ปัญหาที่พบ ก็ไม่ได้ไกลเกินคาดคิด ด้วยความที่ยังเด็ก และไม่รู้เรื่องการค้าอะไรมาก ทำให้แบรนด์ต่างๆ ไม่ยอมปล่อยของ และทวงถามถึงความพร้อมในการค้าขาย หน้าร้านดูดีแค่ไหน ระบบป้องกันความปลอดภัยเป็นอย่างไร เพราะสำหรับสินค้าดีไซน์ภาพพจน์ “แบรนด์” สำคัญที่สุด

สามหนุ่มจึงกลับมาตั้งหลักใหม่ อะไรที่ยังไม่รู้ก็ต้องทำให้รู้ พวกเขาจึงขนตำราการตลาด มาแบ่งกันอ่าน แลกเปลี่ยนทำความเข้าใจ พร้อมศึกษาข้อมูลของแบรนด์ต่างๆ ไปพร้อมกันด้วย พอได้ข้อมูลแน่นๆ มั่นใจขึ้น ก็จัดทำเป็นพรีเซนเตชั่น เพื่อนำไปเสนอเจ้าของแบรนด์ต่างๆ อีกครั้ง

“แบรนด์แรกที่เราเลือกคือ GOODJOB เป็นกระเป๋า พอเราคุยกับเขา เขาบอกว่าจะขายก็ได้นะ แต่ต้องทำให้ดี เราเลยหยุดการหาซัพพลายเออร์ กลับมานั่งอ่านหนังสือประมาณ 2 เดือน แล้วไปเจอเขาอีกทีในงาน BIG&BIH เดือนเมษายน พอเสนอไปครั้งนี้ เขาตอบตกลง เพราะเห็นว่าเรามีการปรับปรุงตัว ที่สำคัญเราอาจยังเด็กเลยไม่ค่อยมีเล่ห์เหลี่ยมมาก เขาจึงยอม”

ได้แบรนด์สุดเจ๋ง เป็นต้นทุนให้เปิดหน้าร้าน แต่มาคิดว่า ถ้าขายสินค้าแค่แบรนด์เดียว จะกลายเป็นการเปิดเว็บไซต์ให้แบรนด์นี้โดยเฉพาะ จึงตระเวนหาสินค้าแนวๆ เพิ่มอีก เพื่อสร้างความหลากหลายให้กับหน้าร้านออนไลน์

“เราไปหาอีก 2-3 ราย อย่าง precious memory ที่ทำกรอบรูป กับงานพวกเรซิ่น แบรนด์นี้เจ้าของยังอายุน้อยมาก และเริ่มธุรกิจในวัยเดียวกับพวกเรา เขาจึงเชื่อว่าเราก็น่าจะทำได้ เขาบอกว่าพี่สนับสนุนเต็มที่ ยอมให้สินค้ามาสต็อกไว้เลย ขายได้ค่อยให้เงิน เป็นกำลังใจให้พวกเรามาก”

ขณะที่บางแบรนด์ก็ต้องอาศัย “ลูกอึด ลูกตื๊อ” กว่าจะยอมรับพวกเขา เช่นในแบรนด์ของแต่งบ้าน Qualy พันธมิตรรายล่าสุดของพวกเขาไว้

“แบรนด์นี้เราติดต่อไปเมื่อ 2 ปี ที่แล้ว ติดต่อเขาทุกอาทิตย์ เป็นเวลา 2 ปี ตื๊อพี่ๆ เขา เพราะศักยภาพของสินค้ามีสูงมาก ของขายได้ 100% ผมเคยไปยืนดูที่บูธเขา ในงาน Thailand best buy หนึ่งวันเขาขายได้ถึง 2 แสนบาท คนสนใจเยอะมาก เราเสียแค่ค่าโทรศัพท์เท่านั้น แต่ถ้าได้สินค้าของเขามาขาย ก็จะสร้างโอกาสให้เราได้มากแน่นอน”

พวกเขาให้เหตุผลที่ต้องตื๊อจนได้สินค้าเด็ดมาอยู่ในพอร์ตว่า พวกเขาต้องการวาง Positioning ตัวเอง เป็น “นิยามใหม่ของงานดีไซน์” นั่นหมายความว่าสินค้าที่เอามาขาย นอกจากคุณภาพต้องเลิศแล้ว ยังต้องเป็นงานที่ "ไม่ดาษดื่น" ไปดูที่เว็บไซต์อื่นไม่มีวางขายแน่นอน เพราะของส่วนใหญ่ถูกส่งไปขายตลาดอินเตอร์ทั้งสิ้น เป็นงานไอเดียไม่โหล ไม่ซ้ำใคร ในราคาขายตั้งแต่หลักร้อย ไล่ไปจนหลักหมื่นบาท

เมื่อได้สินค้ามาพร้อมขาย พวกเขาเริ่มเปิดหน้าร้านของตัวเอง พร้อมๆ กับหน้าร้านเดิมที่ weloveshoping ใช้ชื่อว่า www.goodspect.com โดยค่อยๆ ใส่กลยุทธ์เพื่อดึงลูกค้ากลุ่มเดิม ให้มาคุ้นเคยกับหน้าร้านใหม่ ก่อนจะหมดสัญญาไปกับ weloveshoping ในเร็ววันนี้

แม้ประสบการณ์แสนน้อย แต่การลีลาการขายไม่ใช่สมัครเล่น ซื้อมา ขายไป จบ! แต่พวกเขาเพิ่มเสน่ห์ให้งานดีไซน์สุดคูลในเว็บไซต์ ด้วยการเพิ่มเบื้องลึกเบื้องหลังผลงานเหล่านั้นด้วย โดยการไปสัมภาษณ์ดีไซเนอร์เจ้าของผลงาน ถึงแรงบันดาลใจ ไอเดีย มาทำให้งานหนึ่งชิ้นดูมีคุณค่า เห็นแล้วก็ควรค่าแก่การเป็นเจ้าของ ที่สำคัญเว็บไซต์ที่มีคอนเทนต์มันเซิร์สเจอง่ายกว่ามีแต่ตัวสินค้า ... คิดแค่ 1 แต่ได้ถึง 2

ขณะเดียวกันก็ทำโคโปรโมชั่นกับเจ้าของสินค้าอย่างต่อเนื่อง เมื่อไรที่แบรนด์ใดมีโปรโมชั่นพิเศษ หน้าร้านของพวกเขาก็พร้อมมอบความพิเศษนั้นให้ด้วย เพราะความเชื่อที่ว่า “ไม่ว่าลูกค้าออฟไลน์ หรือออนไลน์ ก็ต้องได้ความพิเศษของสินค้าเหมือนๆ กัน ต้องยุติธรรมกัน ไม่ว่าจะคุณภาพของสินค้า กระทั่งโปรโมชั่นที่เขาควรได้รับ”

มาทำหน้าร้านของตัวเองก็เริ่มมีค่าใช้จ่าย น้องๆ บอกว่าจะพยายามประหยัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเลือกเสียเงินเฉพาะที่ทำเองไม่ได้เท่านั้น โดยรวมๆ หมดค่าใช้จ่ายไปประมาณ 2 หมื่นบาท

เรียนหนังสือมา เอาความรู้มาช่วยอะไรในเวทีธุรกิจบ้าง น้องวินทร์ เด็กพาณิชยศาสตร์ บอกว่า พอได้มาทำงานจริงเลยรู้ว่า ทฤษฎีที่ว่าแน่ บางครั้งก็ไม่ได้ผลในโลกความจริง

“อย่างเรื่องการลดราคา เขาบอกว่ามันเป็นการโปรโมชั่นที่จูงใจลูกค้า ทำให้ลูกค้าซื้อมากขึ้น แต่พอมาใช้จริง การเป็นสินค้าที่มีดีไซน์ ถ้าลดราคาก็เหมือนกับทำให้คุณค่าของมันลดลงไปด้วย ยิ่งลด คนไม่ซื้อ เรื่องพวกนี้ใช้แค่ทฤษฎีไม่ได้ เราต้องเรียนรู้ไปพร้อมการทำงาน”

น้องๆ บอกว่า ทุกอย่างต้องเกิดจากการเรียนรู้ใหม่หมด จากที่ไม่เคยทำงาน รู้อะไรก็แต่ในห้องเรียน ก็ต้องค่อยๆ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ ค่อยๆ ศึกษา วิธีเก็บตุนความรู้ก็คือ ในแต่ละครั้งที่ตัดสินใจทำอะไรออกมา เช่นทำโปรโมชั่นแบบนี้ในช่วงเวลานี้ การทำการตลาดแบบนี้ในเทศกาลต่างๆ พวกเขาก็จะทำการจดรายละเอียดการทำงานทั้งหมดไว้ เพื่อที่ปีต่อมา จะได้กลับมาดูแล้วเตือนสติตัวเองได้ว่า โปรโมชั่นไหนไม่เวิร์ค เกมตลาดแบบไหนควรทำ ไม่ควรทำ เพื่อให้การทำงานในปีใหม่เวิร์คสุดใจกว่าปีเก่านั่นเอง

“ทุกอย่างมันต้องจด ต้องเก็บมาดูเป็นแนวทาง พวกผมยังเรียนกันไม่จบเลย เพิ่งจบ ม.ปลายมา ไม่มีใครสอนทำธุรกิจ เราเรียนรู้ด้วยตัวเองหมด และการไปลงเรียนทางธุรกิจก็คงไม่มีใครสอนเราได้เร็วเท่านี้ นี่มันคือประสบการณ์ล้วนๆ”

แม้จะทำอะไรมาขนาดนี้แต่น้องๆ บอกเราว่า ไม่ได้คิดจะเป็นผู้ประกอบการ แต่ที่ทำก็เพื่อพิสูจน์ตัวเองเท่านั้น ว่าเด็กในวัยที่กำลังจะเข้าสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ก็สามารถทำอะไรเจ๋งๆ พิสูจน์ฝีมือของตัวเองได้

ที่สำคัญการได้ทำงานที่รัก ทำให้สนุก ภูมิใจที่ได้ทำ


จาก กรุงเทพธุรกิจ

1 ความคิดเห็น:

  1. สวัสดีทักทายกับทุกคนที่นี่ผมจะแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับนางเฮเลนาสินเชื่อบ้านองค์กรที่จะออกจากที่นี่เพื่อนำเสนอทุกชนิดของความช่วยเหลือทางการเงินแก่บุคคลทุกคนไม่ว่าสภาพของสถานะทางการเงินของคุณด้านล่างนี้มีชนิดของเงินให้กู้ยืมขอบคุณที่นำเสนอ .

    เราเสนอดังต่อไปนี้ประเภทของเงินให้สินเชื่อ
    สินเชื่อบุคคล (การรักษาความปลอดภัยและไม่มีประกัน)
    สินเชื่อธุรกิจ (การรักษาความปลอดภัยและไม่มีประกัน)
    สินเชื่อรวมต่ำลงหรือเป็นศูนย์การเงินเงินโปรแกรมที่มีจำหน่ายในอัตรา 2%
    อีเมล์ติดต่อ: loanconsolidationcenter01@gmail.com



    ข้อมูลแรกที่จำเป็นคือ:

    ชื่อเต็ม:
    รัฐในประเทศ:
    สถานที่:
    อายุ:
    ติดต่อที่หมายเลขโทรศัพท์:
    จํานวนเงินที่จำเป็น:
    เงินกู้ระยะเวลา:
    วัตถุประสงค์ของการกู้ยืม
    ขอบคุณและขอให้พระเจ้าคุ้มครอง

    อีเมล์ติดต่อ: loanconsolidationcenter01@gmail.com

    ตอบลบ