วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

Bill Gross

ชื่อของ Bill Gross ในแวดวงนักลงทุนของไทยคงมีคนรู้จักน้อย แต่ในสหรัฐ เขาเป็น "มือหนึ่ง" ด้านการลงทุนในตลาดเงินและตราสารหนี้



กองทุน PIMCO หรือ Pacific Investment Management CO. ที่เขาช่วยก่อตั้งขึ้น กลายเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

Bill Gross ต้องดูแลรับผิดชอบบริหารเงินกว่า 200 พันล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 6 ล้านล้านบาท ซึ่งมากกว่างบประมาณรายจ่ายประจำปีของรัฐบาลไทยหลายเท่า มีการทำโพลล์เมื่อเร็วๆ นี้ในแวดวงของนักการเงินพบว่า Bill Gross เป็นรองเพียง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เท่านั้นในฐานะที่เป็นคนที่สามารถคาดการณ์ และวิเคราะห์ภาวะตลาดการเงินในโลกได้แม่นยำที่สุด

ผมคงไม่พูดถึงกลยุทธ์การลงทุนในพันธบัตร หรือตราสารหนี้ของ Bill Gross เหตุผลก็คือ ผมไม่รู้ว่าเขาทำอย่างไร

นอกจากนั้น การลงทุนในตราสารหนี้ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการดูภาพใหญ่ หรือภาพ MACRO ในภาษาทางเศรษฐศาสตร์ ถ้ามองภาพใหญ่ออก การซื้อขายพันธบัตร หรือตราสารหนี้ก็ทำได้ไม่ยาก เพราะสูตรทางคณิตศาสตร์ จะบอกให้รู้ว่า ราคาของพันธบัตรจะวิ่งไปทางไหน


แต่สิ่งที่ผมจะพูดถึง ก็คือ ประวัติ แนวความคิด และวิธีทำงานของเขา ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับการลงทุนของ Value Investor มากกว่า

Bill Gross เริ่มชีวิตของการเป็นนักลงทุน ถ้าจะว่าไป จากการ "นับไพ่" ในบ่อนกาสิโนที่ลาสเวกัส นั่นคือช่วงที่เขายังเป็นวัยรุ่นหลายสิบปีมาแล้ว ที่คนยังไม่ค่อยรู้ว่าการ "นับไพ่" ถ้าเรารู้เรื่องความน่าจะเป็นทางสถิติ เราจะสามารถเอาชนะเจ้ามือได้ Bill Gross สามารถทำเงินจาก 200 ดอลลาร์กลายเป็น 10,000 ดอลลาร์จากบ่อน ก่อนที่จะถูกเกณฑ์เป็นทหารไปรบในสงครามเวียดนาม

ในระหว่างนั้น เขาก็เริ่มคิดไปข้างหน้าว่า ในโลกของผู้ใหญ่ จะมีที่ไหนที่เขาจะสามารถทำแบบเดียวกัน นั่นคือ ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์ เล่นเป็นเกม แล้วได้กำไร สิ่งที่เขาพบ ก็คือ ที่ตลาดหุ้น สุดท้ายมันกลายเป็นตลาดพันธบัตรที่ทำให้เขาสามารถทำกำไร หรือสร้างผลตอบแทนอย่างโดดเด่น และทำให้เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงระดับต้นๆ ของโลกของการลงทุนโดยเฉพาะในตลาดตราสารหนี้

ผลงานของ Bill Gross ก็คือ เขาสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยช่วงสิบปีนับถึงปี 2007 ได้ถึง 8 เปอร์เซ็นต์ต่อปีและชนะอัตราเฉลี่ยของตลาดถึง 5.25% ในช่วง 3 ปีสุดท้าย

ในความคิดของ Bill Gross เขาบอกว่า ผู้จัดการกองทุนที่ยิ่งใหญ่ ต้องเป็นนักคณิตศาสตร์หนึ่งในสาม เป็นนักเศรษฐศาสตร์หนึ่งในสาม และเป็นนักเล่นพนันม้าแข่งอีกหนึ่งในสาม การเป็นนักคณิตศาสตร์ ผมคิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการลงทุนในพันธบัตร เพราะการคำนวณราคาที่เหมาะสมของพันธบัตร ต้องใช้สูตรการคำนวณที่ซับซ้อนมากไม่ได้

มีตัวเลขง่ายๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างเช่นค่า PE ในกรณีของหุ้น ส่วนการเป็นนักเศรษฐศาสตร์ ในกรณีนี้ส่วนใหญ่ ต้องเป็นเศรษฐศาสตร์มหภาค จะช่วยให้รู้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะไปทางไหน ซึ่งกรณีของหุ้น เราจำเป็นต้องรู้เศรษฐศาสตร์โดยรวมมากกว่า

สุดท้าย ก็คือ การเป็นนักเล่นพนันม้าแข่ง กรณีนี้ผมคิดว่าเหมือนกัน ทั้งการลงทุนในตราสารหนี้ และหุ้น เหตุผล ก็คือ การซื้อพันธบัตรหรือหุ้น ไม่ใช่ว่าเราจะมองที่ตัวบริษัท หรือคุณภาพของบริษัทด้านเดียว แต่เราต้องดูราคาที่ซื้อขายกันด้วยว่า คุ้มไหมที่จะ "แทง" เพราะม้าดี อัตราการจ่ายรางวัลจะต่ำ

เช่นเดียวกัน หุ้นดีหรือบริษัทที่ออกตราสารหนี้มีฐานะการเงินดี ราคาหุ้นหรือตราสารหนี้จะสูง ดังนั้น คนที่จะชนะการพนันม้า และคนที่จะชนะการพนันหุ้น หรือตราสารหนี้ ต้องรู้จักความน่าจะเป็นของการชนะและอัตราการต่อรองเหมือนกัน

วิธีการทำงานของ Bill Gross ก็น่าสนใจ เขาบอกว่าทุกวันตั้งแต่ 8.30 ถึง 10.00 น. เขาจะเล่นโยคะและออกกำลังกายที่คลับ ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับที่ทำงาน และเป็นที่รู้กันว่า เวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่เป็น "สวรรค์" ของเขา ที่ไม่ต้องการให้ใครมารบกวน

เขาเคยถูกเรียกให้กลับไปที่ห้องซื้อขายหลักทรัพย์เพียง 2-3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งรวมถึงช่วงวัน Black Monday ที่ตลาดถล่มทลายในปี 1987 ด้วย เวลาที่เขาออกกำลังกาย หรือเล่นโยคะ เป็นเวลาที่เขาใช้คิดถึงการลงทุนต่างๆ และเขาบอกว่าไอเดียดีที่สุดบางอย่างของเขา เกิดขึ้นเมื่อเขายืนอยู่บนศีรษะและขาชี้ฟ้าอยู่

ชีวิตประจำวันอีกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือ Bill Gross ตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง และตรวจสอบตลาดการเงินและเศรษฐกิจทั่วโลกจากคอมพิวเตอร์ที่บ้าน เขาถึงที่ทำงานประมาณตีห้าครึ่ง เพื่อที่จะบริหารเงินจำนวนมหาศาลด้วยตนเอง

คติพจน์ของเขา ก็คือ เขาไม่ต้องการติดต่อกับใครเลย เขาต้องการตัดการติดต่อกับทุกคน เขาจะรับสายเพียง 3-4 ครั้งต่อวัน (ยกเว้นภรรยาของเขา) และเขาจะดูอีเมล เฉพาะที่เขาต้องการจะดูเท่านั้น ที่สำคัญ เขาไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ

ถ้าจะสรุป ก็คือ เขาต้องการความเป็นอิสระที่จะไม่มีอะไรมาทำให้วอกแวกได้ และนี่น่าจะเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมากของการเป็นนักลงทุน โดยเฉพาะการเทรดพันธบัตร หรือตราสารหนี้ที่ต้องมีสมาธิสูงและต้องการความรวดเร็วมากในการ "เคลื่อนย้ายเงิน" จำนวนมโหฬารในเวลาเพียงเสี้ยววินาที ที่จะทำให้ได้ชัยชนะ และนี่อาจจะไม่เหมือนการลงทุนในหุ้นในสไตล์ของ Value Investment ที่มักจะออกแนวช้าๆ แต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ คุณต้องการความเป็นอิสระในการคิด

แน่นอน Bill Gross คงไม่ได้เป็น "ตำนาน" โดยที่ไม่ได้ผ่าน "วีรกรรม" สำคัญๆ เช่นวิกฤตการณ์ ซับไพร์ม หรือวิกฤตการณ์อื่นๆ เขาผ่านมันมาได้อย่างงดงาม ด้วยการสามารถคาดการณ์และวิเคราะห์ได้ถูกต้องว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้น และเตรียมตัวในการรับกับมันให้ได้ และนั่นอาจจะเป็นเงื่อนไขหรือปัจจัยสำคัญในการที่จะยิ่งใหญ่และดำรงความยิ่งใหญ่ให้กับเซียนตัวจริงทุกคน

และนี่ทำให้ผมนึกถึง Long Term Capital Fund ที่เคยเป็นกองทุนที่เล่นในตลาดตราสารหนี้ที่เคยยิ่งใหญ่และมีชื่อเสียงมากไม่แพ้ PIMCO แต่แล้ว ในวันหนึ่งมันก็ล่มสลายลงพร้อมๆ กับความยิ่งใหญ่ของคนที่บริหารมัน ผมก็ได้แต่หวังว่า Bill Gross ในวัยกว่า 60 ปีจะจบชีวิตการลงทุนในฐานะของเซียนสุดยอดการลงทุนในพันธบัตรในอนาคตที่อาจจะไม่ไกลนัก เพราะ "นักเทรด" ปกติแล้ว เป็นเรื่องยากที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงเมื่ออายุมากขึ้น



(ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร โดย : โลกในมุมมองของ VALUE INVESTOR)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น