การตลาด พีอาร์ และ CRM ด้วย Facebook Page (Fan Page) – 01

ก่อนที่จะเริ่มใช้ Facbook Business Page หรือ Fan Page สำหรับ การตลาด CRM ผมขอให้ท่านเห็นความแตกต่าง ระหว่าง Facebook Personal Page (Profile page) และ Facebook Business Page กันก่อนว่า อะไรต่าง และ ทำไมถึงต้องเป็น Facebook Business Page… เพราะหลายๆ ท่านสอบถามผมถึงเรื่องนี้ ค่อนข้างเยอะ และติดปัญหาเรื่องการ สร้าง Fans ที่จะมาเป็นสมาชิก Facebook Business Page หลายๆท่านหันไปใช้ Profile Page แทน ซึ่งเป็นแนวทางที่ไม่ค่อยเหมาะกับงานธุรกิจเท่าไหร่นัก

ความแตกต่างระหว่าง
Facebook Profile Page และ Facebook Business Page

ระบบ Facebook มี เครื่องมือในการสร้างเพจ อยู่ สามแบบหลักๆ คือ Personal Page, Group, และ Business Page ที่เราคุ้นเคยดี เป็น Personal Page ที่เราใช้สื่อสาร หรือเล่นเกมส์ ส่วน Group เหมาะสำหรับกลุ่มบุคคลที่สนใจในสิ่งที่เหมือนกันเข้ามาสื่อสารกัน และ Business Page เป็นเพจ สำหรับธุรกิจเพื่องานการตลาด และประชาสัมพันธ์ หรือ งานบริหารลูกค้า แต่หลายๆ ท่านยังคงสับสนและไม่แน่ใจว่า เครื่องมือ Facebook แต่ละชนิด มันเหมาะสมกับงานประเภทใดบ้าง และจะใช้งานมันอย่างไร

โดยปกติแล้วเมื่อเรา ล็อคอิน เข้าไปที่ Facebook ระบบจะนำท่านเข้าไปสู่หน้า News Feed ซึ่งเป็นที่รวบรวมข่าวสาร ความเคลื่อนไหว จากเพื่อนๆ ของท่าน หรือ แฟนเพจ ที่ท่านสมัครเป็นสมาชิก (โดยปกติหน้า หลัก ที่เราเห็นหลังจากล็อคอินจะเป็น หน้า News Feed) ในหน้า News Feed นี้ มีสองประเภทคือ Live Feed กับ News Feed โดยที่ Live Feed จะแสดวงข่าวสารหรือความเคลื่อนไหวเกือบจะเรียลไทม์ และส่วนมากจะแสดงเฉพาะข้อมูลข่าวสารในวันนั้น ส่วน News Feed จะแสดงข้อมูลข่าวสารย้อนหลังทั้งหมด ดูรูปข้างล่างเป็นตัวอย่างแสดงหน้า News Feed

อีกหน้าหนึ่งมีลักษณะคล้ายๆ กับเว็บเพจส่วนบุคคลค ก็คือ Personal Page (สามารถไปที่หน้านี้โดย คลิ๊ก ที่ชื่อของเรามุมขวาด้านบน) ในหน้านี้ประกอบไปด้วยหน้าย่อย หรือ เรียกว่า Tab โดยปกติแล้วจะมี Tab หลักคือ Wall, Info, Photo และอื่นๆ แล้วแต่ว่าเราจะเพิ่มหรือลดได้ ดูรูปข้างล่างเป็นตัวอย่างแสดงหน้า Personal Page

 

 
 
■Wall Tab เป็นหน้าที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารที่เราเป็นผู้สร้างเอง รวมถึง มีการแสดงกิจกรรมที่เราได้ทำไปบน Facebook

■Info Tab เป็นหน้าเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของเรา

■Photos Tab เป็นหน้าเกี่ยวกับรูปที่เราอัพโหลดขึ้นไปไว้บน Facebook

สำหรับ Facebook Business Page แล้ว จะไม่มีหน้าที่เป็น News Feed มีแต่ Business Page (คล้ายๆกับ Personal Page) และที่พิเศษคือ สำหรับ Business Page เราสามารถตั้งค่าการใช้งานพิเศษต่างๆ และเรื่องสิทธิต่างๆ ในการใช้งาน Business Page สำหรับสมาชิก แต่ Personal Page เราไม่สามารถตั้งค่าได้ และอีกจุดหนึ่งคือ Business Page สามารถเห็นได้โดยไม่ต้อง ล็อคอิน เข้าระบบ ดังนั้นจึงเหมาะกับ Search Engine อย่าง Google ที่จะเข้ามาสร้างฐานข้อมูลสำหรับ Business Page ของเรา ดังตัวอย่างรูปข้างล่าง เป็น Personal Page และ เป็น Business Page ตามลำดับ เมื่อไม่ได้เข้าสู่ระบบ Facebook (ล็อคอิน)

 

 
สรุปคือ สำหรับธุรกิจหรือองค์กรที่ต้องการใช้ Facebook สำหรับงานด้านการตลาด และการประชาสัมพันธ์ ควรจะสร้าง Facebook Business Page เนื่องจากสามารถตั้งค่า และกำหนดสิทธิต่างๆ ได้ และยังสามารถเห็นได้จากบุคคลทั่วไปถึงแม้ไม่ได้เป็นสมาชิก Facebook นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติสำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimizer) และมากไปกว่านั้น ยังสามารถทำการโฆษณาหรือโปรโมท Business Page ของเรา เพิ่มได้อีก จึงเหมาะสำหรับการสร้างเว็บเพจบนระบบ Facebook เป็นอย่างมาก ที่สำคัญอีกประการคือ ในอนาคต Business Page ทาง Facebook มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นในอนาคตแล้ว Business Page จะมีเครื่องมือใหม่ๆ ให้ใช้อย่างมากมาย


ไว้พบกันใหม่ ในตอนที่ สอง เรื่องการสร้าง Business Page ให้มี fans เยอะๆ และเหมาะกับ SEO




(จาก FbOng's Blog)